[ Review ] Topas Ecolodge : สวรรค์บนดินที่ซาปา

สวัสดีครับเพื่อนๆ เคยไหมอยากหนีความวุ่นวายจากเมืองกรุงไปที่ไหนสักแห่ง

จะดีไหมถ้ามีซักที่สวยงามราวกับสวรรค์บนดิน อินกับแมกไม้ นาขั้นบันได

และ สายหมอก พร้อมแช่น้ำอุ่นๆดื่มด่ำกับบรรยากาศวันนี้เราจะพาเพื่อนๆ

ไปชมที่พักในตำนานอย่าง Topas Ecolodge Sapa, Vietnam กันครับ

Topas Ecolodge ที่พักสุดชิวในหุบเขาสวยงามราวกับสวรรค์บนดิน

ห้อมล้อมด้วยสายหมอกและธรรมชาติ เหมาะแก่การหลบหลีกหนีความวุ่นวาย

มา Slow Life กันเบาๆ บอกได้เลยว่าใครมาซาปาไม่ได้มาพักที่นี่

เหมือนมาไม่ถึงจริงๆ คือมันต้องฟิวแบบนี้อ่ะแถมจองยากด้วยนะ

ส่วนตัวจองล่วงหน้าเกือบสองเดือน !! นานแค่ไหนถามใจเธอดู

เมื่อมาถึงเราก็เช็คอินจิบอะไรอุ่นๆกันก่อนเข้าที่พัก

โดยที่นี่เราจะพักกันแบบกระท่อมเป็นหลังๆ ภายในบริเวณค่อนข้างกว้างขวาง

พร้อมพื้นที่ส่วนตัวเล็ดๆให้เราได้ออกมาสูดอากาศบริสุทธิ์ หรือ

เอาโดรนมาบินเล่นกันเบาๆ บอกเลยว่ามีมุมถ่ายรูปเก๋ๆเยอะมากๆ

H I L I G H T ของที่นี่เรียกได้ว่าเป็นมุมบังคับ ต้องมาถ่าย !!

Must Take a Photo !! กับสระน้ำ Infinity Pool ท่ามกลางขุนเขา และ สายหมอก

ด้วยความเย็นประมาณ 15 องศาในช่วงฤดูใบไม้ร่วงนั้นทำให้เราต้อง

ลงไปแช่น้ำอุ่นๆในสระ พร้อมโพสต์ท่าเก๋ๆถ่ายรูปกันหลายๆช็อท

อยากจะถ่ายที่นี่ให้สวยๆ แบบไม่ให้ติดคนเยอะมากมาย

เราแนะนำว่าให้มาสักประมาณช่วงเช้าหลังทานข้าว หรือ

ช่วงเที่ยงจนถึงบ่ายสองก่อนที่กรุ๊ปถัดไปจะเข้ามาเช็คอินที่นี่

เพราะหลังจากนั้นจะเป็นเวลา Prime Time ของการลงเล่นน้ำ

ในสระ Infinity Pool ของเขากันเลย ซึ่งเวลาการลงเล่นน้ำเราว่าสำคัญมากจีจี

โม้เรื่องสระกันแล้ว เราขออนุญาตกลับมาที่ห้องพักของเรากันบอกก่อนว่า

Wifi ที่นี่มีเฉพาะจุดใน Public Area ส่วนในห้องจะต้องใช้เป็นสัญญาณ

โทรศัพท์เอานะจ๊ะ ขนาดของ Hut ไม่เล็กไม่ใหญ่ เราว่ากำลังดี

กับการมาพักผ่อนแบ่งออกเป็นสัดเป็นส่วน พร้อม Complimentary Set ให้เรา

ท่ามกลางความเงียบและความหนาว ก็ยังมีฮีตเตอร์อุ่นๆกับ

เตียง King Size นุ่มๆให้เราได้ขดกันต่อบอกเลยว่าฟินมากๆสำหรับ

ใครที่โหยหาความนุ่มสบายมาที่นี่ไม่ผิดหวังกันอย่างแน่นอน

อารมณ์แบบมา Relax พักผ่อนไม่ต้องออกไปไหน

ภายในห้องน้ำเขาก็ขนาดกำลังดี อ้อ !! มีสายชำระให้ด้วยนะ

สำหรับ Amenity ต่างๆเขาก็มีให้ครบ พร้อมใช้งานกัน

ซึ่งหากใครไม่เห็นในห้องสามารถเดินออกไปหยิบที่ Lobby

มาตุนไว้ได้เช่นกันจ้า ส่วนแชมพูและสบู่อาบน้ำมีกลิ่นหอมอ่อนๆ

เราว่าเหมือนผสมกับพวก Royal Jelly อาบเสร็จผิวจะดูนุ่มๆลื่นๆด้วย

วิวบรรยากาศด้านนอกบอกเลยว่าเป็นนาขั้นบันไดแบบนี้เลย

สำหรับใครที่อยากมาเที่ยว Sapa แล้วอยากมาดูนาขั้นบันได

ไม่ต้องไปที่ไหนหลังห้องพักของเราก็มีถ้าตอนเช้าๆจะมีทะเลหมอก

ให้เราชมและถ่ายภาพกันด้วยนะ สำหรับเราในจุดๆนี้ก็ฟินมากๆแล้ว

ตอนเย็นสำหรับใครที่อยากออกมาทำงาน หรือ อยากหาอะไรอุ่นๆ

ทานตรง Lobby เขาก็มี Café Bar เล็กๆให้บริการเครื่องดื่มอุ่นๆได้ดื่มกันอีกด้วย

สำหรับของกินที่นี่บอกก่อนว่าให้ชอบกินจุบกินจิบแนะนำให้ซื้อ

ติดตัวไว้ก่อนเข้ามาจะดีมากเพราะในนี้ไม่มี Mini Mart ขายนะจ๊ะ

นอกจาก Meal เป็นมื้อของเขาที่เป็นอาหารเช้ากลางวันเย็น

อาหารเช้าที่นี่ก็เป็นเหมือนกับทุกๆที่จะมี American Breakfast และ

อาหารเวียดนามเบาๆ นอกจากนี้ก็จะมีพวกข้าวต้ม แพนเค้ก ให้เราได้เลือกรับประทานกัน

หลังจากดื่มด่ำกับการรับประทานอาหารเช้าแล้วแน่นอนว่าก่อนเช็คเอาท์

เราก็ขอลงน้ำกันอีกสักหน่อยเพราะเวลานี้กำลังดี ไม่ค่อยมีคน หามุมสวยๆ

ถ่ายรูปได้เยอะเลยจ้า ใครอยากจะได้ภาพสวยๆไม่มีคนให้มาช่วงเวลานี้

บอกก่อนว่าใครที่อยากมาที่นี่แนะนำให้จองล่วงหน้ากันนิดนึงนะจ๊ะ

เพราะคนเข้าคิวเยอะมาก ครั้งนี้ผมเองได้โปรโมชั่นจากทาง www.hotels.com

ราคาดีกว่าเว็ปอื่นๆ บอกเลยว่าคุ้มค่ามากๆ สามารถเข้าไปดูเช็ค

Occupancy ของ Topas Ecolodge ได้ที่ Link : https://bit.ly/2FGIaQC

สำหรับใครที่มีโอกาสเดินทางมายัง Sapa ผมจะไม่แนะนำก็คงไม่ได้ 

เพราะที่นี่ผมถือว่าเป็นที่สุดของที่สุดที่อยากให้มาลองพักดูสักครั้ง

เพียงคืนนึงก็ยังดีแล้วเพื่อนๆจะรู้ว่า "สวรรค์บนดิน"  อยู่เพียงแค่เอื้อมจริงๆ

สำหรับครั้งหน้าทางทีมจะพาเพื่อนๆไปท่องเที่ยวที่ไหนกันอีก

อย่าลืมติดตามกันได้เร็วๆนี้ครับ