[Review] Hanoi : เที่ยวได้ไม่ต้องคอยวันหยุด

สวัสดีครับเพื่อนๆ กลับมาอีกหนึ่งครั้งกับ Oneเดย์ in ต่างแดน

ซึ่งวันนี้เป็นอีกหนึ่งทริปที่เราจะพาเพื่อนๆไป กิน เที่ยว ถ่าย กันแบบ

ครบทุกรสชาติกับเมืองประเทศเพื่อนบ้านอย่าง "กรุงฮานอย" 

ประเทศเวียดนามกันครับ จะสนุกสนานกันขนาดไหน อย่าลืม

ติดตามชมกันได้กับรีวิวของเราในวันนี้

สำหรับทริปนี้เราเริ่มต้นกันที่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ บินชิวๆ

ไปยังท่าอากาศยานนอยไบประเทศเวียดนามกัน โดยครั้งนี้เราเดินทาง

กันแบบชิวๆเมื่อเราได้โปรโมชั่นดีๆจาก Vietjet Air มาจะเหลือหรอที่จะไม่จอง

บอกเลยว่าบินตรงสบายๆเพียง 2 ชั่วโมงเราก็ถึงโดยสวัสดิภาพ

ระหว่างการเดินทางของเรานั้น เราก็ชมน่านฟ้าประเทศไทยกัน

ชิวๆ วันนี้ฟ้าเคลียร์มากน่าถ่ายรูปเป็นยิงนัก นอกจากนี้ที่นั่งยังนั่งสบาย

ไม่อึดอัดอีกด้วย ส่วนตัวสูง 170 ก็สามารถยืดขากันได้ 

แถมอาหารที่เราออเดอร์มาในวันนี้ก็ยังอร่อยอีกด้วย เป็นข้าวหมก

แต่รสชาติดี แนะนำให้สั่งออเดอร์มาเป็นเซ็ท หรือ ออเดอร์ก่อน

ล่วงหน้าจะได้ราคาที่ถูกกว่าซื้อแยกบนเครื่องบินครับ

เมื่อมาถึงสนามบินนอยไบ กรุงฮานอยเราก็ไม่รอช้า

เปิด Grab ขึ้นมาเรียกรถเข้ากรุงอย่างไว ซึ่งบอกก่อนว่า

เราเลือกใช้ Application ในการเรียกรถโดยสารเนื่องจากสะดวก

ง่ายต่อการใช้บริการ และ ที่สำคัญไม่ต้องกลัวโดนโกงครับ

" ฮานอย " เมืองทางตอนเหนือ และ ยังเป็นเมืองหลวงของ

ประเทศเวียดนามมีความเป็นมายาวนาน มีสถานที่ท่องเที่ยวน่าสนใจ

หลายแห่ง และ ค่าครองชีพต่ำ สามารถเที่ยวกันได้แบบสบายๆ

100,000 ดองของเขา ประมาณ 140 บาท ซึ่งราคาอาหาร

ต่อจานจะอยู่ที่ประมาณ 20,000 - 50,000 ดองเท่านั้นเอง

นอกจากนี้ตึกราบ้านช่องยังมีความเป็นตะวันตกเนื่องจาก

อิทธิพลที่เคยเป็นเมืองขึ้นของประเทศฝรั่งเศสมาก่อนนั่นเองครับ

สำหรับวันนี้เราจะพาเพื่อนๆไปเที่ยวไหนกันบ้างนั้นต้องติดตามชม

กับรีวิวในวันนี้กัน รับรองว่าสนุกสนานกันอย่างแน่นอน

ถนนคนเดินฮานอย

เริ่มต้นกันที่การเดินเล่นบนถนนภายในเมืองฮานอย

มีจุดถ่ายรูปหลากหลายแห่งให้เราได้เลือก ใครชอบมุมไหน

เตรียมพร็อพ เตรียมชุดให้พร้อมและกดชัตเตอร์กันได้เลย

นับว่าเป็นอีกหนึ่งสถานที่ที่น่ามาเดินเล่นเป็นอย่างมาก

 ถมเฝอก็อร่อย แนะนำให้ลองมาชิมดู

แอบอยากบอกว่าน้องน่ารักมากๆ เลยขออนุญาตถ่ายรูปเก็บมาฝาก

พร้อมทานอาหารเช้ากันที่นี่ และเป็นเหมือนตลาดขายของพวกเสื้อผ้า

เครื่องประดับ ของกิน ฯลฯ แบ่งเป็นล็อกๆ คนค่อนข้างเยอะมากๆ 

โบสถ์เซนต์โจเซฟ

นับว่าเป็น Landmark ของเมืองฮานอยเลยก็ว่าได้ เป็นโบสถ์รูปแบบนีโอกอธิค

สร้างขึ้นในสมัยศตวรรษที่ 19 โดยมีต้นแบบเป็นวิหารนอทเทอร์ดาม

ในกรุงปารีส โบสถ์นี้เป็นศูนย์รวมชาวคริสต์นิกายโรมันคาทอลิกที่ใหญ่ที่สุดในฮานอย

เป็นโบสถ์ที่เก่าแก่ที่มีความสวยงามและคลาสสิค อยู่ใกล้กับ

ทะเลสาปฮว่านเกี๋ยม เดินทางสะดวก ไม่เสียค่าเข้าชม บรรยากาศโดยรอบ

ส่วนใหญ่เป็นร้านกาแฟน่านั่งทั้งนั้น เห็นแล้วอยากเข้าทุกร้านเลย

เป็นหนึ่งจุดเช็คอินที่ต้องมาจัดก่อนไปเที่ยวที่อื่นๆกันต่อครับ

ทะเลสาบฮว่านเกี๋ยม

อยู่ในเขตเมืองเก่าของฮานอย เมื่อเดินไปรอบๆทะเลสาบแห่งนี้ และ

เป็นแหล่งอุดมสมบูรณ์ไปด้วยต้นไม้ หลีกหนีจากผู้คนพลุกพล่านในเมือง

ปูเสื่อบนผืนหญ้าและพักผ่อนหย่อนใจไปกับการปิกนิก เปิดบริการทุกวัน

ไม่เสียค่าเข้าชม แต่ถ้ามาในช่วงกลางคืนก็จะได้บรรยากาศไปอีกแบบ

นอกจากนี้ยังมี " วัดหง็อกเซิน "   ตั้งอยู่บนเกาะกลางทะเลสาปฮว่านเกี๋ยม

เป็นสถานที่ที่เงียบสงบและสวยงามอีกที่หนึ่งในฮานอย เราจะต้องข้าม

สะพานเทฮุกสีแดงเพื่อไปยังวัดนี้ และสามารถชมวิวทิวทัศน์

แบบพาโนรามาของทะเลสาบได้ เป็นอีกหนึ่งจุดที่สวยงามมากๆ

Lung Café

เหนื่อยนักก็พักหน่อย กับร้านคาเฟ่เล็กๆน่ารักๆ

กลางเมืองฮานอยกับร้าน Lung Café เพราะเขามีเมนูเด็ด

ที่เรียกได้ว่าไม่ลองไม่ได้แล้วจริงๆ ใครผ่านไปมาต้องมาเยี่ยมชิม

เป็นอีกหนึ่งร้านในเมืองฮานอยที่ขึ้นชื่อในเมนู “กาแฟไข่”

ที่ใครๆมาเอาเป็นว่าต้องสั่งก็ว่าได้ โดยปกติแล้วเราเองไม่ชอบทานกาแฟ

แต่แอบลองชิมนิดนึง เราว่าโอเคเลยล่ะ มีความหอม มัน รสชาติกำลังดีเลย

หากเพื่อนๆไม่ใช่คอกาแฟ ทางร้านยังมีเมนูอื่นๆให้เลือกอีกหลากหลายเมนูเช่นกัน

พิพิธภัณฑ์โฮจิมินห์

ถูกสร้างขึ้นเพื่ออุทิศแด่ชีวิตและมรดกที่สืบทอดมาจากอดีตประธานาธิบดี

ของเวียดนามเหนือและพิพิธภัณฑ์นี้ยังอุทิศให้แก่การต่อสู้ดิ้นรน

เพื่อก้าวสู่อิสรภาพอีกด้วย และที่นี่เป็นสถานที่ที่เหมาะกับการเรียนรู้

บทบาทของโฮจิมินห์ในการนำอิสรภาพมาสู่เวียดนามและ

สร้างประวัติศาสตร์รัฐคอมมิวนิสต์ ซึ่งใครอยากรู้ประวัติศาสตร์

ของเวียตนามเพิ่มเติมต้องลองเข้ามาชมกันดูครับ

นอกจากนี้ยังมี อาคารสุสานโฮจิมินห์ ซึ่งสร้างด้วยหินอ่อน

หินแกรนิต และไม้มีค่าจากทั่วประเทศ ตั้งตระหง่าน  อลังการ

มีทหารกองเกียรติยศในชุดเครื่องแบบเต็มยศสีขาวยืนรักษาการณ์อยู่ตลอดเวลา

เป็นอย่างไรกันบ้างครับ กับ Oneเดย์ in เวียดนามของเรา

อย่าลืมชวนครอบครัว หรือคนรู้ใจเก็บกระเป๋าแล้วออกเดินทางกันเถอะ

หากเพื่อนๆ อยากเที่ยวต่างประเทศแต่มีเวลาน้อย เราคิดว่าประเทศนี้

น่าจะตอบโจทย์เพื่อนๆหลายคน ลองหาโอกาสมาเที่ยวฮานอยสักครั้ง

ต้องมาสัมผัสมนต์เสน่ห์ของฮานอยแบบเจาะลึก อาจจะหลงเสน่ห์

ของเมืองนี้แบบไม่รู้ตัว แล้วจะอยากกลับมาที่นี่แบบผมอีกก็เป็นได้